วันอังคารที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ผู้แทนประเทศไทย คว้า 3 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดงจากฟิสิกส์โอลิมปิก ณ ประเทศเอสโตเนีย

  ผู้แทนประเทศไทย คว้า 3 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดงจากฟิสิกส์โอลิมปิก ณ ประเทศเอสโตเนีย

   คณะผู้แทนประเทศไทยที่ได้รางวัลจากการแข่งขันฟิสิกส์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ครั้งที่ 43 จะเดินทางกลับมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ในวันพุธที่ 25 กรกฎาคม 2555  เที่ยวบิน TG 923  เวลา 12.50 น. โดย สสวท. จะจัดพิธีต้อนรับที่ชั้น 2 ด้านในประตูที่ 1 สนามบินสุวรรณภูมิ นางพรพรรณ  ไวทยางกูร  ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เปิดเผยถึงผลการแข่งขันฟิสิกส์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ครั้งที่ 43 ที่จัดแข่งขันในวันที่ 15 – 24 กรกฎาคม 2555  ณ เมืองทาลลินน์ และตาร์ตู ประเทศเอสโตเนีย  จากการลงมติของที่ประชุมคณะกรรมการนานาชาติ การแข่งขันฟิสิกส์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ครั้งที่ 43 ผลอย่างเป็นทางการ ปรากฎว่านักเรียนไทยสามารถคว้าเหรียญรางวัล3 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง ได้แก่


เหรียญทอง            นายปภพ  สวัสดี    โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา   และทำคะแนนได้เป็นอันดับที่ 6 ของผู้เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด     
            นายณัฐนันท์  ตันติวัสดาการ   โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย
            นายพุฒิพงศ์   วรศรัณย์       โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์

เหรียญเงิน            นายพงศภัค  สวัสดิรักษ์  โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา

เหรียญทองแดง             นายศุภณัฐ    ธนศิลป์              

           โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ ประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขันฟิสิกส์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ครั้งที่ 43 ครั้งนี้ มีจำนวนทั้งหมด 81 ประเทศ จำนวนนักเรียนที่เข้าร่วมแข่งขัน 378 คน  นายปภพ สวัสดี ทำคะแนนได้เป็นอันดับที่ 6 ของนักเรียนทั้งหมด  ส่วนลำดับที่ 1 เป็นของนักเรียนประเทศฮังการี ลำดับที่ 2 -3 เป็นของนักเรียนจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ลำดับที่ 4 - 5 เป็นของนักเรียนจากไต้หวัน


            สำหรับคณะอาจารย์ผู้ควบคุมทีม ประกอบด้วย ดร. พิเชษฐ  กิจธารา  มหาวิทยาลัยมหิดล  ดร. สิรพัฒน์  ประโทนเทพ  วิทยาลัยนาโนเทคโนโลยีพระจอมเกล้าลาดกระบัง  รองหัวหน้าทีม  รศ. สุวรรณ  คูสำราญ  มูลนิธิ สอวน.   ผู้ช่วยหัวหน้าทีม  นายรักษพล  ธนานุวงศ์ สสวท.  ผู้จัดการทีม

            นายปภพ  สวัสดี  (สต๊อก) วัย 17 ปี ชั้น ม. 6 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กล่าวว่า ในความคิดของตนนั้น โครงการโอลิมปิกวิชาการช่วยให้นักเรียนไทยสนใจเรียนรู้วิทยาศาสตร์เพิ่มขึ้น  แต่ไม่ได้หมายความว่าการที่ประเทศไทยได้เหรียญรางวัลจำนวนมากจะทำให้วิทยาศาสตร์ในประเทศดีขึ้น กระบวนการในการคัดเลือกต่างหากที่เป็นตัวจุดประกายให้นักเรียนมีความตั้งใจที่จะพัฒนาตนเองเพื่อเข้าโครงการ  อนาคตอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์  วิศวกร หรือนักวิจัย ตั้งใจอยากพัฒนาอุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ  เช่น อุปกรณ์ทางการแพทย์ หรือเครื่องมือทางอุตสาหกรร

            มนายณัฐนันท์  ตันติวัสดาการ (แนท) วัย 18 ปี  ชั้น ม. 6  โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย วิชาที่รักที่สุดคือ ฟิสิกส์ ดาราศาสตร์ และดนตรีที่ทำให้ช่วยผ่อนคลาย หลังจากนี้จะรับทุนเล่าเรียนหลวงไปศึกษาต่อ อยากกลับมาเป็นอาจารย์ สอนหนังสือและทำวิจัย เพื่อพัฒนาบุคลากรและวิชาการความรู้ภายในประเทศของเรา

            นายพุฒิพงศ์  วรศรัณย์  (ตัง) วัย 18 ปี ชั้น ม. 6 โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ บอกว่า ชอบเรียนฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ เพราะเป็นวิชาที่เรียบง่ายและสวยงาม ใช้ความเข้าใจมาก ไม่ได้เน้นที่ท่องจำ  อยู่ที่โรงเรียนจะคอยสอนเพื่อน และนัดรุ่นน้องมาสอนเป็นประจำ เพราะที่ผ่านมารุ่นพี่ก็ติวให้เรา จึงคิดว่ารุ่นน้องก็คงต้องการเราเหมือนที่เราต้องการรุ่นพี่มาสอน  อนาคตจะรับทุนโอลิมปิกวิชาการไปศึกษาต่อต่างประเทศ อยากกลับมาเป็นอาจารย์และนักวิจัย จะมาสอน ถ่ายทอดความรู้ให้เยาวชนรุ่นใหม่ และอยากทำวิจัยเพื่อพัฒนาประเทศให้ก้าวไกลกว่านี้

            นายพงศภัค  สวัสดิรักษ์  (แอมป์)  วัย 18 ปี ชั้น ม. 6  โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา  กล่าวว่า นอกจากฟิสิกส์ซึ่งตนเองมีความถนัดแล้ว ยังชอบวิชาเกี่ยวกับการทำอาหาร เพราะสนุก  เทคนิคการเตรียมตัวก่อนไปแข่งขันคือทบทวนความรู้และป้องกันความเคีรยดโดยไม่คิดอะไรมากเกินไปเพียงแต่ตั้งใจทำให้ดีที่สุด

            นายศุภณัฐ  ธนศิลป์ (ไปป์) วัย 18 ปี ชั้น ม. 6  โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ นอกจากจะชอบเรียนฟิสิกส์ การเรียนศิลปะที่ตนเองชอบยังทำให้มีมุมมองเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ที่หลากหลายขึ้น อีกทั้งยังช่วยคลายเครียด “อนาคตอยากพัฒนาวิทยาศาสตร์ของประเทศไทยให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น