วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2554

ALGAE สาหร่ายประโยชน์ 2 ต่อ

http://www.newscientist.com/data/images/ns/cms/mg21028075.300/mg21028075.300-1_300.jpgในยุคปัจจุบันซึ่งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีความก้าวหน้ามาก พลังงานส่้วนใหญ่ที่เราใช้กันนั้นมาจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งใช้เวลาในการกำเนิดนานนับล้านปี แต่ในโลกยุคปัจจุบันมนุษย์เรามีความต้องการในการใช้พลังงานมาก จึงทำให้เชื้อเพลิงฟอสซิลดังกล่าว หมดลงไปอย่างรวดเร็ว และเชื้อเพลิงฟอสซิลนี้เมื่อเผาไหม้แล้ว จะก่อให้เกิดมลพิษขึ้นมามาก แต่ตอนนี้เรามีพลังงานทางเลือกต่างๆ ที่สะอาด เช่นพลังงานลม เป็นต้น วันนี้ผมขอนำเสนอแหล่งพลังงานทางเลือกใหม่ ซึ่งนอกจากจให้พลังงานมาให้เราใช้แล้ว ยังช่วยบำบัดน้ำ ทำให้น้ำสะอาดได้อีกด้วย
ALGAE คือสาหร่า่ยชนิดหนึ่งซึ่งให้ประโยชน์ถึง 2 อย่างคือ นอกจากจะช่วยบำบัดน้ำที่เน่าเสียแล้ว ยังให้พลัังงานชีวภาพที่สะอาด ไม่เป็นมลพิษต่อโลกอีด้วย
สาหร่าย ALGAE นี้เลี้ยงด้วยลิพิด(ไขมันชนิดหนึ่ง)ซึ่งประกอบด้วยส่วนประกอบของไนโตรเจนและฟอสเฟต ในการบำบัดน้ำของสาหร่ายชนิดนี้จะทำโดยการเปลี่ยนน้ำมันให้กลายเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพ แต่มีสาหร่ายเพียงไม่กี่ชนิดที่สามารถแปลงให้เป็นไขมันที่สามารถแปลงเป็นเชื้อเพลิงได้ อย่างไรก็ตามสาหร่ายก็นับได้ว่าเป็นแหล่งพลังงานทดแทนที่ดีที่สุด โดยพลังงานที่ได้่คือไบโอดีเซล ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้กับการขนส่งต่างๆ เช่น ใช้ในรถบรรทุกได้
Eric Lannan วิศวกรเครื่องกล สถาบันเทคโนโลยีโรเชสเตอร์ นิวยอร์ก และเพื่อนร่วมงาน กล่าวว่าสาหร่ายที่สามารถแปลงน้ำมันเปลี่ยนเป็นพลังงานชีวภาพที่ดีที่สุดมี 3 ชนิดคือ Scenedesmus, Chlorella และ Chlamydomonas โดยเขาได้ทำการทดลองกับสาหร่ายทั้งสามชนิดนี้พบว่า ในเวลาเพียง 3 วัน สาหร่ายเหล่านี้สามารถกำจัดแอมโมเนียในน้ำได้ถึง 99 เปอร์เซนต์ กำจัดไนเตรตได้ 99 เปอร์เซนต์และกำจัดฟอสเฟตได้ 99 เปอร์เซนต์เช่นกัน และเปลี่ยนมลพิษเหล่านี้เป็นแหล่งเชื้อเพลิงได้มหาศาล และยังช่วยบำบัดน้ำเสียให้น้ำสะอาดได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
กระบวนการที่สาหร่ายได้ทำการบำบัดน้ำเสีย เปลี่ยนให้กลายเป็นพลังงานได้นั้นมีอยู่ 2 ขั้นตอน ขั้นแรกคือใน 3 วันแรก เมื่อสาหร่าย  algae ทำการการสังเคราะห์ลิพิดจากน้ำเสียแล้ว น้ำเสียก็จะไม่มีส่วนประกอบของไนโตรเจนและฟอสเฟตอีกต่อไป หลังจากนั้น 6 วัน คณะวิจัยได้ทำการบีบอัดเพื่อสกัดน้ำมัน จากนั้นก็นำมาหมักเพื่อให้ย่อยสลายได้เป็นมีเทน หรือสามารถนำไปผลิตต่อเป็นเอทานอลได้ต่อไป
ข้อมูลจาก : NewScientist.com

อ้างอิงจาก http://www.sciencenaru.com/algae-%e0%b8%aa%e0%b8%b2%e0%b8%ab%e0%b8%a3%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b9%82%e0%b8%a2%e0%b8%8a%e0%b8%99%e0%b9%8c-2-%e0%b8%95%e0%b9%88%e0%b8%ad/#more-636

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น