วันอังคารที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2555

พื้นผิวน้ำแข็งบนเกาะกรีนแลนด์ละลายฉับพลัน กับความคลาดเคลื่อนในการตีความ


  เมื่อ 2-3 วันก่อน องค์การนาซ่าได้เปิดเผยภาพถ่ายดาวเทียมของเกาะกรีนแลนด์ ในภาพแสดงพื้นที่ที่เคยเป็นน้ำแข็ง (สีขาว) ในวันที่ 8 กรกฎาคม (ภาพซ้าย) เปลี่ยนเป็นสีแดงในวันที่ 12 กรกฎาคม (ภาพขวา) ซึ่งหมายถึงมีการละลายของน้ำแข็งเกิดขึ้น  พื้นที่สีแดงกินบริเวณกว้างถึง 97% ของพื้นที่เกาะ

             ในช่วงแรกนักวิทยาศาสตร์คิดว่าระบบดาวเทียมทำงานผิดพลาด เพราะการละลายเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายใน 4 วันเท่านั้น แต่เมื่อได้ตรวจสอบกับข้อมูลจากดาวเทียมหลายดวงปรากฏว่าให้ผลตรงกัน จึงยืนยันได้ว่าเกิดการละลายขึ้นจริง

             เรื่องนี้กลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก และสร้างความแตกตื่น กระแสตอบรับส่วนเป็นในทำนองว่า
"มันเริ่มแล้วสินะ" "โลกใกล้อวสานไปทุกที" "น้ำท่วมโลกแน่" ฯลฯ
             ถึงขนาดมีการคำนวณปริมาณน้ำแข็งบนเกาะกรีนแลนด์ว่าถ้าละลายเป็นน้ำจะทำให้ระดับน้ำในมหาสมุทรสูงขึ้นเท่าไหร่

จริงๆ แล้ว มันน่ากลัวขนาดเลยหรือ?             ประเด็นหนึ่งที่ดูเหมือนหลายคนจะเข้าใจคลาดเคลื่อนไปจากรายงานของนาซ่าก็คือ เรื่องความหมายของตัวเลข 97%

ซึ่งอาจเป็นเพราะการตีความของผู้รับสารเองที่ตีความเพี้ยนไป หรืออาจเพราะนำเสนอที่ไม่ชัดเจน ไม่ได้ระบุลงไปว่า 97% นี้หมายถึงอย่างไร

             จึงขอย้ำไว้ที่นี้เลยว่า การละลายของน้ำแข็ง 97% นั้นหมายถึง ผิวหน้าของน้ำแข็ง 97% ของพื้นที่น้ำแข็งทั้งหมดมีการละลาย ไม่ใช่ ปริมาณน้ำแข็ง 97% บนเกาะละลายหายไป

              เทียบง่ายๆ สมมุติ มีน้ำแข็งอยู่ 10 ก้อน หยิบมาดูพบว่ามี 9 ก้อนที่เริ่มมีน้ำหยดๆ ส่วนอีก 1 ก้อน ยังแข็งแห้งเหมือนเดิม แต่ก็ไม่ใช่ว่า 9 ก้อนนั้นเหลวเป็นน้ำไปหมด

             ในรายงานของนาซ่าระบุไว้ว่า โดยปกติช่วงหน้าร้อนประมาณ 50% ของพื้นพี่จะมีการละลายของน้ำแข็งอยู่แล้ว ซึ่งหมายถึงครึ่งหนึ่งของพื้นที่มีการละลาย อีกครึ่งไม่ละลายเลย และครึ่งที่ละลายก็ไม่ได้ละลายหายไปหมด แต่ละลายแค่ผิวหน้า เมื่อน้ำที่ละลายไหลไปแถวๆ ชายฝั่งก็จะแข็งตัวอีกครั้ง เป็นสมดุลของปริมาณน้ำแข็งบนเกาะ

             เพียงแต่เหตุการณ์คราวนี้ พื้นที่ที่เกิดการละลายเพิ่มขึ้นกว่าที่ผ่านๆ มา และขยายพื้นที่อย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังไม่รู้ว่าปริมาณน้ำที่ละลายออกมามากน้อยแค่ไหน และจะกลับเป็นน้ำแข็งเหมือนที่ผ่านๆ หรือไม่ การละลายนี้จะส่งผลให้มวลน้ำแข็งบนเกาะกรีนแลนด์ลดลงหรือไม่ ยังไม่มีข้อสรุป

             แม้หลายฝ่ายจะแสดงความเห็นในทำนองว่า "ไม่เคยเห็นปรากฏการณ์ที่แปลกขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต" แต่การไม่เคยพบเห็นก็ไม่ได้หมายความว่า "เป็นเรื่องผิดปกติ"
             ช่วงชีวิตของคนไม่ได้ยาวนานนักหากเทียบกับโลก เหตุการณ์แบบนี้อาจเคยเกิดมาเป็นร้อยๆ ครั้ง ตลอดช่วงเผ่าพันธุ์มนุษย์ดำรงอยู่แต่เราไม่ได้รับรู้

             จากการศึกษาชั้นน้ำแข็ง ครั้งล่าสุดเราพบว่าการละลายแบบนี้เคยเกิดขึ้นเมื่อร้อยกว่าปีก่อน นั่นคือมีเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้อย่างน้อยหนึ่งครั้ง ก็ไม่น่าจะถือว่า "ผิดธรรมชาติ"?

             ที่กล่าวมาทั้งหมดไม่ได้หมายความว่า เรื่องนี้ปกติอย่าไปสนใจ หรือคนที่กังวลแค่คิดไปเอง

             เหตุการณ์นี้จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจและควรตรวจติดตามถึงผลกระทบ ควรตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้น โดยจะต้องพิจารณาวิเคราะห์ข้อมูลอย่างรอบคอบ และต้องนำเสนออย่างถูกต้องรัดกุม ไม่ใช่นำเสนอเพื่อกระพือกระแสวันสิ้นโลกให้ตื่นตระหนก ทางผู้รับข่าวสารเองก็ขอให้วิเคราะห์แยกแยะให้ดี อย่าเพิ่งรีบเชื่อมโยงไปเป็นเรื่องหายนะวันสิ้นโลกอย่างเดียว 

             เพราะเรื่องวันสิ้นโลกนั้นก็ยังไม่มีหลักฐานอะไรทีสนับสนุนเลยนอกจากภาพยนตร์ 

อ้างอิงจาก http://www.vcharkarn.com/varticle/43991

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น