วันอังคารที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ศึกษาพลูโต-ศึกษาดาวเคราะห์นอกสุริยะ


นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าข้อมูลที่จะได้จากดาวพลูโตและดวงจันทร์ชารอนนี้ จะทำให้เราเข้าใจระบบดาวเคราะห์มากขึ้น และอาจจะทำให้ได้วิธีการสำรวจค้นหาดาวเคราะห์และระบบดาวเคราะห์วิธีใหม่ได้
 ดาวพลูโตเคยถูกจัดว่าเป็นดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ แต่ถูกตัดออกไปเมื่อมีการนิยามดาวเคราะห์กันใหม่ ลักษณะเด่นคือการเป็นดาวหินแข็งที่อุณหภูมิพื้นผิวติดลบหนักมาก อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์คิดเป็น 40 เท่าของโลก นอกจากพลูโตจะมีดวงจันทร์ขนาดใหญ่อย่างชารอนแล้ว ยังมีดวงจันทร์ขนาดเล็กลงไปอีกโคจรอยู่ 3 ดวงคือ นิกซ์ ไฮดรา และที่เพิ่งค้นพบใหม่คือ P4
 ระบบดาวทั้งหมดนี้อยู่ใกล้กันมากกว่าระยะห่างระหว่างโลกกับดวงจันทร์ ทำให้วงโคจรของมันซับซ้อนมากแต่พบได้ทั่วไปในระบบดาวนอกระบบสุริยะ จึงเป็นไปได้ที่ว่า การศึกษาดาวพลูโตอาจจะทำให้เราได้ข้อมูลว่า จะค้นหาระบบดาวเคราะห์ที่โคจรอยู่รอบดาวแม่สองดวงนอกระบบสุริยะได้อย่างไร
 โดยเมื่อปีที่แล้วที่มีการค้นพบดวงจันทร์ P4 จากกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลขององค์การนาซ่านั้น นักดาราศาสตร์ได้ใช้แบบจำลองคอมพิวเตอร์เพื่อคำนวณตำแหน่งดวงจันทร์ดวงอื่นๆ ของพลูโตและชารอน โดยชารอนนั้นถือว่าเป็นดวงจันทร์ที่ใหญ่สุดแล้วในกลุ่มนี้ มีเส้นผ่านนศูนย์กลางเกินครึ่งหนึ่งของดาวพลูโต และมีมวล 12 เปอร์เซ็นต์ของดาวพลูโต

 "มันก็ช่างน่าแปลกใจที่พวกเขาพบดวงจันทร์ดวงใหม่อยู่ระหว่างดาวทั้งสองดวง ซึ่งมันหมายความว่ามันอาจจะถูกดวงจันทร์ดวงอื่นเหวี่ยงให้มีวงโคจรสะเปะสะปะก็เป็นได้ ตอนนั้นผมก็สงสัยว่าการโคจรลักษณะนี้ก่อให้เกิดผลเช่นไรบ้าง และก็ตื่นเต้นเพราะว่าเราสามารถเรียนรู้อะไรได้หลายๆ อย่างจากมัน" แอนดรูว์ โยดิน นักวิทยาศาสตร์ที่ศูนย์วิจัยฟิสิกส์ดาราศาสตร์ฮาวาร์ด-สมิธโซเนียน กล่าว
 "มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยทั่วไปของระบบดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะเลย นักวิทยาศาสตร์พยายามศึกษาเรื่องความเสถียรของวงโคจรเป็นระดับพันล้านปีกันเลยทีเดียว"
 นอกจากนี้ งานวิจัยของโยดินและทีมงานไม่ได้จำกัดอยู่แค่ว่าขนาดของดวงจันทร์ดาวพลูโตและตำแหน่งของมันอยู่ที่ไหน แต่ก็ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์รู้ได้แล้วว่า จะหาระบบดาวเคราะห์ที่มีวงโคจรรอบดาวแม่สองดวงได้อย่างไรด้วย
 นักดาราศาสตร์ที่ใช้ข้อมูลจากกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลนั้นได้พบระบบดาวเคราะห์ดวงเดียวที่โคจรรอบดาวฤกษ์สองดวงมานานแล้ว แต่ยังไม่เคยพบระบบที่ดาวเคราะห์โคจรรอบกันเองหลายๆ ดวงแบบนี้
 "เรากำลังเรียนรู้จากพลูโตว่า ดวงจันทร์ที่อยู่ไกลออกไปนั้นควรจะมีลักษณะเช่นไรหลังจากที่อยู่ในระบบมานานเป็นล้านปีหรือหลายพันล้านปีแล้ว" โยดินกล่าวต่อ โดยโยดินนั้นเตรียมเผยแพร่งานวิจัยนี้ในวารสารวิชาการ Astrophysical Journal แล้ว
 และอีกไม่นานนี้ แบบจำลองคอมพิวเตอร์จะทำให้เราได้ข้อมูลใหม่ออกมา และยานอวกาศ New Horizons ของนาซ่าก็กำลังอยู่ระหว่างการโคจรไปศึกษาดาวพลูโต ดวงจันทร์ชารอน และดวงจันทร์ดวงอื่นๆ ตลอดจนดาวเคราะห์น้อยต่างๆ ในแถบดาวเคราะห์ไคเปอร์
 "อีกไม่กี่ปีข้างหน้า เราก็จะรู้แล้วล่ะว่าเราคิดถูกหรือคิดผิด เราสามารถศึกษาการโคจรของดวงจันทร์เหล่านี้ได้จากกล้องฮับเบิลนะ แต่มันยังไม่แม่นยำเท่ากับส่งยานไปสำรวจตรงนั้นเลย"
 อย่างไรก็ตาม จากการคำนวณคร่าวๆ ก็ทำให้นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า ไม่น่าจะมีดวงจันทร์อยู่ระหว่งดาวพลูโตกับดวงจันทร์ชารอนอีก และหากจะพบดวงจันทร์ วงโคจรก็น่าจะอยู่ไกลออกไปเลย แต่นักวิทยาศาสตร์ของยาน New Horizons ก็ชักจะหวั่นๆ เพราะดวงจันทร์เหล่านี้เหมือนกัน
 "เราก็เกรงว่ายานอวกาศลำนี้จะถูกทำลายเหมือนกัน" อลัน สเติร์น นักวิทยาศาสตร์หัวหน้าโครงการ New Horizons กล่าว "แค่เฉี่ยวอะไรขนาดเท่าเม็ดข้าวโดน ก็ฉีกยานเราได้เลยล่ะ"
 แต่นักวิทยาศาสตร์พอจะมีวิธีการรับมือกับเรื่องนี้ไว้แล้ว โดยจะใช้กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลตรวจดูว่าบริเวณไหนที่น่าจะเป็นจุดเสี่ยงที่ยานจะโดนโจมตีจากเศษหินเล็กๆ ก่อนที่จะปล่อยให้ยานเริ่มดำเนินการสำรวจจริงด้วยกล้องของยานเอง นอกจากนี้ ทีมวิจัยยังได้หาเส้นทางสำรองเตรียมไว้ในกรณีฉุกเฉินต้องเปลี่ยนแผนเอาไว้แล้ว


อ้างอิงจาก http://www.vcharkarn.com/vnews/154406

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น